คณะรัฐมนตรีไทยได้ออกกฎหมายยาเสพติดชุดใหม่ โดยลดระดับการปฏิบัติการเพื่อให้ประชาชนมีโอกาสครั้งที่สอง หากได้กระทำความผิดเล็กน้อย ผู้กระทำความผิดด้านยาเสพติดบางรายจะได้รับการบำบัดด้วยยาแทนการดำเนินคดี
รองโฆษกหญิง ไตรสุรี ไตรศรานากุล รองโฆษกนายกรัฐมนตรี รายงานว่า คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติกฎหมายใหม่ภายใต้พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ กฎหมายจะเน้นไปที่การครอบครองยาในปริมาณที่จำกัด
คำตัดสินใหม่จะถูกนำมาใช้เพื่อพิจารณาว่าผู้กระทำความผิดด้านยาเสพติดสมควรได้รับโอกาสในการรักษาหรือต้องเผชิญกับการลงโทษหรือไม่
ตามรายงานกฎหมายระบุโควตายาเสพติดประเภท 1, 2 และ 5 ร่วมกับสารออกฤทธิ์ประเภท 1 และ 2 ผู้ต้องสงสัยที่มียาเสพติดจำนวน จำกัด จะถูกตัดสินว่ากระทำความผิดเล็กน้อยและจะถูกส่ง เข้าโปรแกรมการรักษาแทนการดำเนินคดี
โควตายาในแต่ละประเภทระบุไว้ด้านล่าง:
ประเภทที่ 1 เฮโรอีนต่ำกว่า 300 มิลลิกรัม ยาบ้าไม่เกิน 1.5 กรัม และยาบ้าไม่เกิน 1.5 กรัม
ประเภทที่ 2: โคเคนต่ำกว่า 600 มก. และฝิ่นต่ำกว่า 15 กรัม
ประเภทที่ 5: ยาในกลุ่ม 5 ไม่สามารถจัดอยู่ในกลุ่มที่ 1 ถึง 4 เช่น เห็ด Psilocybin หรือเห็ดวิเศษ ใครก็ตามที่เป็นเจ้าของยาเสพติประเภทที่ 5 ที่มีน้ำหนักต่ำกว่า 135 กรัม จะถือว่ากระทำความผิดเล็กน้อยและจะได้รับการบำบัดด้วยยาแทนการดำเนินคดี
สารออกฤทธิ์ประเภทที่ 1: คาทิโนนต่ำกว่า 0.5 กรัม (เป็นสารบริสุทธิ์) แอลซีโลซินต่ำกว่า 0.1 กรัม และแอลซีโลไซบินต่ำกว่า 0.1 กรัม
สารออกฤทธิ์ประเภท 2: คีตามีนต่ำกว่า 0.5 กรัม (เป็นสารบริสุทธิ์) ไนทราเซแพมต่ำกว่า 5 กรัม และฟลูราซีแพมต่ำกว่า 0.3 กรัม
ตามทนายคดีอาญา จิราพร ทองปล้อง ภายใต้กฎหมายยาเสพติดฉบับเก่า โทษการใช้และครอบครองยาเสพติดมีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ถึง 10 ปี และปรับระหว่าง 20,000 บาท ถึง 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อย่างไรก็ตาม บทลงโทษสำหรับการมียาเสพติดจำนวนมากไม่ครอบคลุมอยู่ในประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ อย่างไรก็ตาม บทลงโทษสำหรับความผิดเกี่ยวกับยาเสพย์ติด แม้กระทั่งความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดที่ร้ายแรงกว่านั้น ก็มีการปรับลดโทษลงตามประมวลกฎหมายยาเสพติดใหม่นี้ด้วย
ประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ยังไม่ได้รับการตอบรับที่ดี แต่ชาวเน็ตบางคนเชื่อว่าเป็นประโยชน์ต่อผู้ติดยาและผู้ค้ายา
Credit photo by United Nations Office on Drugs and Crime