เมื่อไม่นานมานี้ บริษัท ชนินาฏ แอนด์ ลีดส์ ชนะคดีอาญาในชั้นศาลฎีกา ซึ่งประเด็นที่สำคัญมากที่สุดคือศาลฎีกาได้อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาเรื่องของการพิสูจน์หลักฐานในคดียาเสพติด ซึ่งในคดีนี้ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาให้ บริษัทชนินาฏ แอนด์ ลีดส์ ซึ่งเป็นทนายความของจำเลยชนะคดี โดยลูกความได้รับการปล่อยตัวและมีอิสรภาพทันทีหลังจากที่มีคำพิพากษาของศาลฎีกาแล้ว จากที่ลูกความเคยได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิตมาก่อนในศาลอุทธรณ์ สาระสำคัญคือ คำพิพากษาของศาลฎีกาเขียนว่าต้องมีมาตรฐานของพยานหลักฐานของอัยการ ไม่ควรมีความขัดกันและต้องมีการพิสูจน์อย่างสิ้นสงสัย
วิธีการที่ต้องพิสูจน์พยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ว่าสารเสพติดที่อยู่ในความครอบครองของตำรวจระหว่างการตรวจพิสูจน์สารเสพติดตามระเบียบ ต้องโต้แย้งว่าเป็นพยานบอกเล่า และเรียกพยานมาเบิกความต่อศาล ซึ่งส่วนใหญ่ทนายความคดีอาญาไม่ค่อยเรียกพยานผู้เชี่ยวชาญผู้ตรวจหาสารเสพติด เพราะฉะนั้นถือว่าทนายความคดีนั้นได้สละสิทธิ์ในการโต้แย้งเกี่ยวกับกฎหมาย ความจริงทนายความคดีอาญาที่ช่วยลูกความสำหรับคดีในชั้นศาลควรที่จะสอบถามถึงพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ แล้วถ้าเป็นไปได้ควรที่จะเรียกพยานผู้เชี่ยวชาญของจำเลยมาศาลด้วย เพื่อที่จะต่อสู้ด้วยหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับผลตรวจสารเสพติด ความจริงทนายความส่วนใหญ่ในคดีอาญาในประเทศไทยมักไม่ถามค้านหรือให้ความสำคัญกับพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ แต่ทนายความส่วนใหญ่มักให้ความสำคัญกับพยานบอกเล่าอันเป็นหลักฐานที่มีความน่าเชื่อถือน้อยและเป็นพยานหลักฐานที่ไม่ถูกต้อง
